การประสานพลังทีม
การประสานพลังทีม
โดย วชิราพร ชัยวรมุขกุล (เจ-JSAN)
Tel. 089-712-7172 clubpattana@hotmail.com
หากคุณเข้าใจความหมายของ “การประสานพลังทีม”
คุณจะพบว่า มันช่างมีความหมายมากที่สุด
ที่นำข้อดีของอุปนิสัยทั้งหมดมารวมเข้ากันเพื่อทำงานใหญ่ให้สำเร็จ
ประโยคข้างต้น มาจากหนังสือ 7 อุปนิสัย หรือ
The seven habits of highly effective people
หรือที่เรามักเรียกกันสั้นๆ จนติดปากว่า seven habits ของ Stephen R. Covey
การประสานพลัง เหมือนกับการที่ใครสักคน หรือคนกลุ่มหนึ่ง
ยอมละทิ้งบทบาทที่เป็นอยู่แต่เดิม ไปสู่บทบาทใหม่ด้วยตัวเอง
ใครคนนั้นหรือคนกลุ่มนั้นจะต้องเปิดใจและเปิดความคิดให้กว้างขึ้นกว่าเดิม
กล้าเผชิญหน้ากับสิ่งใหม่ๆ นั่นแสดงว่า หากเป็นคุณ
คุณจะต้องกล้าและเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองมากระดับหนึ่งเชียวนะ
การประสานพลัง มันเป็นมากกว่าผลรวมแต่ละส่วน
เป็นมากกว่าสมการทางคณิตศาสตร์ เช่น 1+1 = 2
แต่ความจริง ผลของมันยิ่งใหญ่เกินกว่านั้นมาก
ดังเช่น มีไม้ 2 ท่อน เมื่อนำมามัดรวมกัน
มันสามารถรับน้ำหนักได้มากกว่าน้ำหนักที่ไม้แต่ละชิ้นจะรับได้
ของเมื่อถูกรวมกันแล้ว จะต้องให้คุณค่ามากกว่าการแยกชิ้นส่วน
ถ้าหากการแยกส่วน ดีอยู่แล้ว แต่เมื่อนำมารวมกัน ผลกลับตาลปัด
กล่าวคือ ผลเลวร้ายลงกว่าเดิม เรียกว่า ความเข้ากันไม่ได้หรือ
ไม่สามารถประสานพลังทีมได้ ก็ไม่ควรกระทำ
เช่น ยาบางชนิดเกิดปฏิกิริยาระหว่างกัน หักล้างฤทธิ์กัน
หรือ อาหารบางประเภท
รับประทานแยกแล้วอร่อยล้ำเลิศ แต่เมื่อนำมาทานรวมกัน
ทำให้ส่วนผสมและความลงตัวด้อยลงไปกว่าเดิม
จนไม่อาจรู้ได้ว่า อันไหนเป็นอันไหน คืออร่อยแปลกๆ ว่างั้นเหอะ
แบบนั้น ก็แยกกันดีกว่า
การประสานพลังทีม สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในธุรกิจ
ยกตัวอย่างที่ง่ายที่สุด คือ การประชุม
ปกติทั่วไปของการประชุม พวกเรามักจะพอรู้กันอยู่ว่า มันเป็นไปตามธรรมเนียม
มันน่าเบื่อ และไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงได้มากนัก
แต่หากผู้ที่รู้สึกสนุกในการประสานพลังทีม
ซึ่งขอเจาะจงว่า ต้องคิดในทางสร้างสรรค์เท่านั้น
มันจะเปลี่ยนความน่าเบื่อเป็นความน่าสนใจและกลายเป็นความหวังใหม่
และโอกาสใหม่ๆ ให้เราได้เห็น
ทำยังไงให้ลักษณะแบบนี้ เกิดขึ้นกับทุกคนในทีม
บ่อยครั้งเลยค่ะ
ที่การประชุมแบบประสานพลังทีมเท่าที่ดิฉันเคยเห็นและได้มีประสบการณ์ร่วมด้วย
มันมาจากคนที่พร้อมจะแสดงออกซึ่งความเห็น (ดีๆ และสร้างสรรค์)
ของตัวเอง เปิดเผยต่อกันและกัน
มันทำให้เกิดไอเดียสร้างสรรค์ตามมานักต่อนัก
และหลายครั้งจบลงด้วยเรื่องที่ไม่คาดฝัน แผน และผลลัพธ์ที่เกินคาดจริงๆ
กลับมาที่การประสานพลัง เมื่อมีการประชุม
เริ่มต้นจากทุกคนเปิดเผยความเห็นส่วนตัวออกมา
ความจริงที่สร้างสรรค์จะช่วยกันหาแนวทางใหม่ๆ ที่พอเป็นไปได้
มุมมองของแต่ละคนที่แตกต่างกัน
น่าจะเป็นสิ่งที่เพิ่มความทวีคูณมากกว่ากฎทางคณิตศาสตร์
ทีมจะมีพลัง และวิสัยทัศน์ที่สดใสกว่าเดิม
ความจริงแล้ว ในบทความนี้ หัวข้อที่เหมาะสม
น่าจะเป็น “การสร้างทีมให้มีประสิทธิภาพและเห็นผลได้จริง”
แต่ทุกท่านทราบหรือไม่คะว่า ฟังแล้ว มันดูน่าเบื่อและแทบจะเบือนหน้าหนี
บ่อยครั้ง การประสานพลังทีมที่ ทำแล้วก็ไม่ได้บรรลุผล
เพราะอะไรนะเหรอ?
ต้องย้อนกลับไปดูที่ ความคิดสร้างสรรค์ การเปิดเผยและการไม่ยอมหลุดออกจากกรอบ
ตรงนี้ต้องลงลึก ย้อนไปที่ตัวปัจเจคบุคคล และอาจต้องให้เวลากับสิ่งนี้
เมื่อใดก็ตาม หากทีมได้รับการประสานพลังที่ดีต่อกันแล้ว
ความไว้เนื้อเชื่อใจจะตามมา ความกล้าเปิดเผย
ความมั่นใจของแต่ละคนในทีมจะเริ่มก่อเกิดขึ้น
ประสบการณ์ใหม่ๆ ไอเดียดีๆ จะพร่างพรูเข้ามา
จนทำให้คนเหล่านี้ จะไม่อยากหวนกลับไปในแนวทางเดิมที่เคยเป็นอีกเลย