รวมกันเป็นหนึ่งด้วยการยืนยันซ้ำ ๆ
รวมกันเป็นหนึ่งด้วยการยืนยันซ้ำๆ
โดย วชิราพร ชัยวรมุขกุล (เจ)
Tel. 089-712-7172 clubpattana@hotmail.com
เป้าหมายของทีมคือสิ่งสำคัญ ที่จะนำพาทีมไปสู่ความสำเร็จ
แต่วิธีการที่แตกต่างกันนั้น ย่อมทำให้บางทีมไปถึงเป้าหมายโดยยาก
บางทีมอาจไม่ได้ไปถึงเป้าหมายเลยก็มี
เป้าหมาย วัตถุประสงค์ หรือแม้แต่วิสัยทัศน์ ที่ทีมต้องการให้ไปถึงร่วมกันนั้น
นักจิตวิทยาผู้หนึ่งได้หาวิธีและทดลอง พบว่า
คนเราช่างลืมง่ายมาก
แต่ความน่าสนใจ ในแง่ระดับความจำที่หลงเหลืออยู่ในการทดลองมีอยู่ว่า
เมื่อผ่านการจดจำไปแค่ 1 วัน แต่คนส่วนใหญ่ ก็ยังจดจำสิ่งที่เหลืออยู่นั้น
เมื่อเวลาผ่านไปถึง 1 เดือน
นั่นแสดงว่า คำพูด การกระทำทั่วๆ ไป ใน 1 วัน
เมื่อผ่านเลยไป เปลี่ยนเป็นวันใหม่ คนเราจดจำเรื่องราวได้เบาบางมาก
แต่ผ่านไป 1 เดือน คนเราก็ยังจดจำได้เบาบางคล้ายๆ ที่ผ่านมาแค่วันเดียวเท่านั้น
(มีข้อยกเว้น กรณีที่เป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจ หรือฝังใจจนไม่อาจลืม)
ฉะนั้น จึงไม่แปลกเลย เมื่อคุณเห็นโฆษณาบางอย่าง
ฉายซ้ำ ฉายซ้อน ไปมาอยู่แบบนี้
จนทำให้เราติดปากโดยไม่รู้ตัวก็มี
เช่น “กินอะไร กินอะไร กินอะไรไปกิน MK”
“มามีโปะโกะ แห้งสบายไม่ซึมเปื้อน”
การยืนยันเป้าหมายบ่อยๆ เป็นสิ่งที่ควรทำในทีม
เพราะความจริงคือ ถ้าเราไม่ยืนยันเป้าหมาย หรือวัตถุประสงค์ทุกวันซ้ำๆ
เรามักจะลืม และจำไม่ค่อยได้
ทำให้ นึกย้อนไปเมื่อปี 2008
ที่ประเทศจีนเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิกที่ นครปักกิ่ง
ประเทศจีน เป็นประเทศที่กว้างใหญ่ ผู้คนหลากหลาย
ระดับการศึกษาแตกต่างกันมาก การปกครองย่อมไม่ง่าย
แน่นอน การจะทำให้วิสัยทัศน์
ความเข้าใจถึงความสำคัญของการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิก
ย่อมไม่ง่ายเช่นกัน
การกำหนดและดำเนินไปตามวิสัยทัศน์ร่วมกัน แค่ภายในองค์กรหนึ่งๆ ก็เป็นสิ่งยากแล้ว
แต่รัฐบาลจีน ช่างมีความคิดที่แยบยลเพื่อให้คนทั้งประเทศมีวิสัยทัศน์ร่วมกัน
และจีนก็ทำสำเร็จ
กล่าวคือ
รัฐบาลจัดให้มีป้ายไฟทุกหัวมุมเมืองน้อยใหญ่ สื่อทุกรูปแบบที่ทุกคนเข้าถึง
ไม่ว่าจะเป็นประกาศออกทางโทรทัศน์ ในช่วงขั้นเวลา
เมื่อผู้คนหันไปเจอ ทุกคนจะรับรู้ร่วมกันถึง “เวลาที่เหลืออยู่”
วันที่ไกลได้เริ่มใกล้เข้ามา วันเปิดการแข่งขันโอลิมปิกคือวันที่ ….
ตอนนี้ ประเทศเราเราเหลือเวลาอยู่ 1,081 วัน
ตอนนี้เราเหลือเวลาอยู่ 622 วัน
ตอนนี้เราเหลือเวลาอยู่ 84 วัน
ตอนนี้เราเหลือเวลาอยู่ 7 วัน
และมีนโยบายให้ทุกคนอ่านออกเสียงดังๆ เหมือนยืนตรงเคารพธงชาติ
เมื่อทุกคนทำซ้ำๆ ทุกวันแบบนี้ เพียงแต่เปลี่ยนตัวเลขเป็นนับถอยหลัง
ประชาชนคนจีน กลุ่มธุรกิจ รัฐบาล แทบทุกองค์กร เรียกได้ว่า ตั้งตารอ
และซึมซับกับเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ที่ประเทศตัวเองได้รับโอกาสในครั้งนี้
การนับวันถอยหลัง และพูดทุกวัน ทำให้พวกเขารู้ว่า
เขาเหลือเวลาเตรียมตัว เตรียมพร้อม อีกกี่มากน้อย
ความเพอเฟคที่ไม่มีวันเพอเฟค ทำให้จีนแก้ไขโครงการต่างๆ
แก้แล้วแก้อีก ตราบเท่าที่ “มองไปแล้ว รู้ว่า ยังพอมีเวลาเหลืออยู่”
การแก้งานให้ทุกภาคส่วนดีขึ้น ดีขึ้น และดีขึ้นอย่างกระตือรือร้น
ทำให้ภายหลังจากการปิดการแข่งขันโอลิมปิก
เศรษฐกิจของประเทศจีนนั้นมาแรงจนหยุดไม่อยู่
เพราะวิสัยทัศน์ที่ทุกคนรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันนี้
ได้เป็นที่ประจักษ์สู่ชาวโลก คนสงสัยอยากรู้
อยากลอง อยากสัมผัสจีนให้มากกว่าที่เคยเป็น
สิ่งนี้ นับเป็นความสำเร็จร่วม ของทั้งประเทศอย่างแท้จริง
การเพิ่มความถี่ในการย้ำ ยืนยันในเป้าหมายอย่างซ้ำๆ นั้น แทบจะกลายเป็นบทสวด
ที่ทำให้ทีมซึมซับและไม่ลืมวัตถุประสงค์ที่สำคัญไปได้เลย