BlogBook

AI กับพื้นฐานนำคำเดียวคือ (Believe ใช้ใจเชื่อ)

AI กับพื้นฐานนำคำเดียวคือ  (Believe ใช้ใจเชื่อ)

โดย วชิราพร ชัยวรมุขกุล (J)
กรรมการบริหาร บริษัท ABC CLUB จำกัด
Tel: 089-712-7172
clubpattana@hotmail.com
www.facebook.com/clubpattana

สวัสดีค่ะ บทความนี้ เป็นการถอดเทป ถอดบทเรียนมาจาก
ปรมาจารย์ด้าน AI ของประเทศไทย คือ อ.ภิญโญ ของพวกเรานี่เอง
ห้องเรียน AI ในวันนี้ ช่างมาไกลจากวันเก่าก่อนนัก

แต่ทว่า เมื่อลองย้อนมองดู พื้นฐานของ AI ก็เช่นเดียวกับ

 

จิตวิญญาณของ ผู้เข้าถึง AI มีจุดร่วมจุดเดียวกัน คือ คำว่า “ความเชื่อ”

เคยเจอองค์กรที่หาทางออกของปัญหาไม่ได้
องค์กรที่แบบว่า อันนั้นก็ไม่ได้ครับ อันนี้ก็ผิดกฎ
อันนั้นไม่เคยมีใครทำมาก่อน อันนี้น่าจะยากเกินไปนะ

องค์กรประเภทนี้ คือ องค์กรที่ ไม่สามารถหาทางแก้ไขปัญหาอะไรได้
แต่ไม่ใช่ องค์กรที่ทุกอย่างเป็นไปได้
ก่อนที่จะแก้ไขปัญหาใหญ่ๆ ได้ พื้นฐาน ทุกอย่าง
อยู่ที่คำว่า ความเชื่อ หรือ Believe

มีแค่คำนี้ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้หมดเลย

ดังนั้น พื้นฐานที่สุดของ AI ไม่ใช่แค่ Positive thinking แต่ มันคือ Believe
ยกตัวอย่างเช่น คนงานทำงานเฉื่อยชา แต่ถ้า AI เชื่อว่า
มันต้องมีสิ คนที่กระตือรือล้นทำงานทุกๆ วัน
จากการสัมภาษณ์ ไปเจอคนงานที่มีแบบนี้จริง สืบพบว่า

เขามีฝันในชีวิต มีเป้าหมาย จะทำงานเก็บเงิน 10ปี แล้วจะกลับไปซื้อที่นา

 

ก้าวกระโดด

 

ฟังแล้ว น่าขยายผล ใช่ไหม ลองถามคนอื่นๆ
เราจะพบว่า ปัญหาเล็กๆ ของคนๆ หนึ่ง มันคือ ปัญหา common ของคนส่วนใหญ่

คราวนี้เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว จะไม่อยากอยู่นิ่งๆ เพราะว่า มันคือจุดร่วมของจุดใหญ่ๆ
สาระสำคัญ ของ AI นี้อยู่ที่ว่า ทำยังไงให้คนเชื่อได้ว่า มีคำตอบดีๆ ซ่อนเร้นในคำถามเสมอ

AI จึงต้องใช้เวลาในการบ่มเพาะ ฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ AI คือ ทัศนคติ + ทักษะ
ถ้าอยากให้องค์กรคิดว่า สิ่งนั้นสิ่งนี้มันเป็นไปได้นะ เราต้องเชื่อก่อนว่ามันทำได้ ขอแค่เชื่อ

แต่ถ้าบอกว่า เอ่อ มันทำไม่ได้หรอก เท่านั้น คือจบ
ไม่มีอะไรจะพัฒนาต่อได้ หากไม่มีความเชื่อ

ทัศนคติที่ดี ที่มีต่อ AI มันคือ ความเป็นไปได้
และจะส่งผลให้คุณ พยายามค้นหาอย่างสร้างสรรคฺ ค่อยๆ แก้ปัญหา
และ ค้นหามันไปเรื่อยๆ

 

ai-book-33

 

มีคำถามว่า  ถ้าคุณตั้ง vision ไกลแค่ไหน แต่คนในองค์กรไม่ขับเคลื่อนล่ะ

อย่างเช่น เจ้าของกิจการ หรือ CEO ฝันใหญ่ ฝันไกลมาก อยากรวยๆ แต่พนักงานไม่เอาด้วย
ขายก็ไม่เก่ง ขอทำงานกินเงินเดือนไปวันๆ ปัญหามาแบบนี้ คราวนี้เอาไงดีล่ะ

AI ที่จะช่วย solve ตรงนี้ได้ เจ้าของกิจการ
อาจต้องไล่ถามพนักงานว่าใครคือ คนที่ขายเก่ง
เขาทำยังไง ไป discovery มา

กรณีแบบนี้ ยกตัวอย่างเช่น ลูกค้าเข้ามาซื้อ ลูกน้องบอก ไม่มี
ลูกน้องที่ดีกว่า บอกว่า ไม่มีค่ะ แต่มีอีกยี่ห้อหนึ่ง เทียบเคียงใกล้กัน เกรดดีกว่า เกรดพอๆ กัน หรืออะไรก็ว่าไป
คือ ไม่ปิดตัวตาย แต่ยังเปิดช่องให้ลูกค้าพอมีทางเลือกในการตัดสินใจ
หากลูกค้าไม่ซื้อ แต่ก็ถือว่า ลูกน้องทำหน้าที่ได้ถึงจุดสิ้นสุดกว่าเดิม
จากเดิมที่เคยพูดแค่ว่า “ไม่มี”

ดังนั้น พอเจ้าของกิจการรู้ได้ดังนี้ ขยายผลยังไงต่อล่ะ
พนักงาน ควรต้องมีความรู้ใช่ไหม ควรรับการฝึกว่า ต้องขายยังไง
นั่นคือ ควรต้องลงลึกให้เข้าใจ เอาให้ถึงทัศนคติ
พอทำใหม่อีกครั้ง ดูแล้ว มัน work รึเปล่า หากยังไม่โอเค ก็ค่อยๆ สืบค้นต่อ
และขยายผลต่อๆ ไป พื้นฐาน คืออะไรจำได้ไหมคะ นั่นคือ ความเชื่อ

เราต้องเชื่อว่า มันเปลี่ยนไปในทางที่ดีกว่าเดิมได้

มีคำพูดที่ดีคำหนึ่ง คือ

ถ้าคุณไม่มีความเชื่อ คุณก็แค่ได้อยู่นิ่งๆ ขยับภูเขาไม่ได้

ฉะนั้น AI ในวันนี้ ปัญหาใหญ่เล็ก แก้ได้ทั้งหมดค่ะ ตามที่ ปรมาจารย์ของเรากล่าวไว้
เพียงแต่ปัญหาใหญ่ ในองค์กรใหญ่ อาจแก้ได้ยาก และใช้เวลานานกว่า
ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่แปลก
แต่ สำคัญ พื้นฐานของ AI คือ มีความเชื่อว่า ทุกอย่างเป็นไปได้
เปลี่ยนแปลงย่อมเข้าสู่สิ่งที่เป็นไปได้

Facebook Comments Box