พอผมเล่าเรื่อง AI ให้คนที่ยังไม่คุ้นจะบอกว่า AI อ๊อ Artificial Intelligence นั่นเอง
จริงๆแล้วเป็นคำย่อของอีกหลายคำครับเช่น Appreciative Inquiry
อีกอันก็เรื่อง Appreciative Intelleigence
แต่อีกตัวเป็นอันที่ผมคิดเองคือ Aladdin Inquiry (AI แบบที่ผมทำครับ)
ผมเรียกเล่นๆเท่านั้นอย่าไปถือสาครับ

 

ผมได้แนวคิดมาจากหนังสือ Aladdin Factor ครับ

กล้าที่จะขอ

 
สิ่งที่คนทำ AI KM LO OD ทั้งหลายอาจเคยมีประสบการณ์คล้ายๆกัน
คือ  การไม่ได้รับความร่วมมือโดยเฉพาะผู้มีอำนาจ
หรือแม้กระทั่งคนที่มาร่วมงงานกับเราแล้ว แต่กลับไม่เต็มที่
ประมาณไม่เชื่อเราครับ ผมได้แรงบันดาลใจจากหนังสือเล่มนี้ครับ

 

การขอผู้มีอำนาจ แนวคิดคือแต่ก่อนขออะไรไม่ได้เพราะเราขอไม่เป็น
พออ่านครับ เจออะไรอย่างหนึ่งคือ เรายกเหตุผลประกอบการขอมากเกินไปครับ
โดยเฉพาะเรื่องยากๆ จริงๆแล้วไม่ต้องใช้เหตุผลมากครับ
ใช้เหตุผลที่เป็นกำปั้นทุบดินแต่เป็นเรื่องจริงก็พอครับ
ลองขอแบบซื่อๆสิครับ หรือไม่ก็ต้องไม่พูดเหตุผล “ขอความช่วยเหลือครับ”
แต่คุณต้องขออย่างจริงใจครับ ขอเพราะคุณทำไม่ได้ครับ

 

ล่าสุดเราทดลองกันง่ายๆ คนในเครือข่ายต้องการจัดนิทรรศการแต่ขาดเงินทุน เขามาปรึกษาผม
ผมแนะนำให้ไปขอความช่วยเหลือตรงๆ บอกว่าเราไม่มีไปเลยครับ
ขอให้ช่วยด้วยครับ กลับได้ครับ แบบไม่น่าเชื่อ

 

ตอนหลังในแผนกลยุทธ์แบบ Strength-based planning ของเราจะรวมเรื่องการขอไปด้วย
ลองคิดดูสิครับจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเรามีพนักงาน 20 คนของคนละ 10 เรื่องต่อปี
จะได้ประมาณ 200 เรื่องครับ
เราอาจได้เห็นการเปลี่ยนแปลงกว่า 200 เรื่องในปีเดียวครับ

 

ลองทำ AI ในทีมก็ได้ครับว่า
“ให้ลองนึกถึงครั้งที่คุณขอให้ผู้บริหาร
หรือผู้มัอำนาจให้ช่วยเหลือคุณ (ในเรื่องงาน)
แล้วได้รับความช่วยเหลือ วันนั้นเกิดอะไรขึ้น
คุณพูดอะไรไปบ้าง”
คุณอาจจะเจอสิ่งที่พวกเราเจอครับ
แล้วลองขยายผลกันกันดู
ชาว AI, KM LO OD จะไม่โดดเดี่ยวและเสียกำลังใจอีกต่อไป